วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2556

เลือด




     เลือด เป็นของเหลวอยู่ในหลอดเลือดมีฤทธิ์เป็นเบสอ่อนมี pH ประมาณ 7.35 - 7.45 เลือดช่วยกระจายความร้อนและนำสารที่สำคัญซึ่งอยู่ในเลือดไปทั่วร่างกาย  
ส่วนประกอบของเลือด

     เลือด  ประกอบด้วย  นํ้าเลือด (Plasma) เซลล์เม็ดเลือดแดง (Red  blood cells)  เซลล์เม็ดเลือดขาว (White  blood cells) เกล็ดเลือด (Platelets)

     น้ำเลือด (Plasma) เป็นของเหลวสีเหลืองอ่อน ประกอบด้วยน้ำประมาณ  91 เปอร์เซ็นต์  มีเซลล์เม็ดเลือดลอยอยู่  
 
ส่วนประกอบของน้ำเลือด

     หน้าที่ของน้ำเลือด คือ ลำเลียงสารต่าง ๆ และแก๊สออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ของร่างกาย ลำเลียงของเสียและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มาที่ปอดเพื่อขับออกจากร่างกาย ซึ่งจะช่วยควบคุมการทำงานของร่างกาย ให้เป็นปกติ

     เซลล์เม็ดเลือดแดง  มีรูปร่างค่อนข้างกลมแบน  มีรอยบุ๋มตรงกลาง  เมื่อโตเต็มที่จะไม่มีนิวเคลียสมีอายุประมาณ  100 - 120 วัน มีฮีโมโกลบินซึ่งรวมตัวกับออกซิเจน
รูปร่างของเม็ดเลือดแดง
หน้าที่ของเม็ดเลือดแดง


หน้าที่ของเม็ดเลือดแดง
    1.  นำแก๊สออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ทั่วร่างกาย
    2.  นำแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเซลล์ไปสู่ปอด

 
เซลล์เม็ดเลือดขาว



     เซลล์เม็ดเลือดขาว เป็นเซลล์ที่มีนิวเคลียส  มีรูปร่างกลมใหญ่กว่า เม็ดเลือดแดง มีอายุประมาณ 7–14 วัน
รูปร่างและหน้าที่ของเม็ดเลือดขาว

หน้าที่เม็ดเลือดขาว
        ทำลายเชื้อโรค เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย เม็ดเลือดขาวจะถูกผลิตเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะทำลายสิ่งแปลกปลอม
รูปร่างและหน้าที่ของเกล็ดเลือด


     เกล็ดเลือด มีรูปร่างเป็นรูปไข่และแบนมีขนาดเล็กมากไม่มีสีไม่มีนิวเคลียส เกล็ดเลือดจะมีอายุเพียง 4  วันก็จะถูกทำลาย

หน้าที่ของเกล็ดเลือด

        รักษาความสมดุลภายในหลอดเลือด และ ช่วยทำให้เลือดแข็งตัว เมื่อเลือดออกสู่ภายนอกร่างกาย โดยจะจับตัวเป็นกระจุกร่างแหอุดรู ของหลอดเลือดฝอยจะช่วยให้เลือดหยุดไหล
 
กลไกการห้ามเลือดของร่างกายเมื่อเกิดการบาดเจ็บของเส้นเลือด


     ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่ ความดันโลหิตสูง อาจทำให้ผนังหลอดเลือดอ่อนแอลง ทำให้เกิดการแตกของหลอดเลือดได้ ซึ่งหากเกิดแตกในบริเวณสมอง จะมีผลทำให้เลือดที่ออกไปกดทับการทำงานของสมองทำให้เป็นอัมพาตหรือหมดสติ หรือเสียชีวิตได้
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น